Friday, July 5, 2013

สามคนผัวเมียอยู่อย่างนี้แหละดีแล้วมันส์ควยแมร่งทุกวัน

ประสบการณ์เสียวเรื่อง สามคนผัวเมียอยู่อย่างนี้แหละดีแล้วมันส์ควยแมร่งทุกวัน เล่าเรื่องเสียว


ผ่านมา 3 ปีกว่า แล้วที่ผมและ น้องกิ๊ก ได้แอบคบกันมา ลูกของน้องกิ๊ก กับ ภรรยาผม ก็ได้ 2 ขวบ (ถ้าเพื่อนๆได้ตามอ่านกันนะครับ) น้องกื๊กก็ยังไปมาหาสู่กับ ภรรยาผมตลอด และสนิทกันมากอย่างก่ะพี่น้องแท้ๆ ส่วนระหว่างผมกับน้องกิ๊กนั้น เราก็ยังแอบมีความสัมพันธ์กันตลอด เดือนนึงอย่างน้อยก็ 1-2 ครั้ง แล้วแต่เวลาจะเอื้ออำนวย เพราะต่างมีลูกต้องดูแลกัน แต่ทุกครั้งที่ ผมกับน้องกิ๊กได้ร่วมรักกัน น้องกิ๊กก็ยังคงน่ารักเหมือนเดิม เอาใจผมทุกอย่าง หาชุดสวยๆ เอ็กส์ๆ เซ็กส์ซี่ มาอวดผมประจำ มันยังทำให้ผมคึกคะนองได้ตลอด ลีลาร่วมรักของกิ๊กนั้นก็เข้าจังหวะกับผมได้ดี เรามีความสุขกันทุกครั้งที่ร่วมรักกัน ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมานอกจาก ภรรยาผม กับ น้องกิ๊ก และน้องนิด (หลานน้องกิ๊กที่มาช่วยปลดปล่อยอารมณ์ให้ผมตอนน้องกิ๊กเธอท้องอยู่) จากนั้นมาผมก็แทบจะไม่ได้มีอะไรกับผู้หญิงอื่นอีกเลย แต่คราวนี้ผมมีอีกความประทับอีกครั้งที่จะเล่าให้เพื่อนๆฟัง เรื่องเกิดขึ้นเมื่อต้นปี 53 ตอนนั้นผมก็ได้ไปติดต่องานตามปกติของผม ที่บริษัทเอกชนแห่ง หนึ่งแถวถนน เพลินจิต เป็นถนนที่สมชื่อจริงๆ เพราะผมเพลินกับการมองสาวๆออฟฟิศมาก (ผมชอบมองสาวๆในชุดทำงานมากกว่าสาวๆที่แต่งตัวไปเที่ยว) สาวบางคนนุ่งกางเกงขายาว บางคนนุ่งกะโปรงสั้นฟิต บางคนนุ่งกะโปรงบานๆ เห็นแล้วเพลินจิตใจจริงครับ ยิ่งช่วงทานกลางวันนี่ คึกคักมากที่สุด พอตกบ่ายผมก็เข้าไปพรีเซ้นท์งานผมกับลูกค้าที่นัดไว้ ในห้องประชุมผมก็ทำหน้าทีพรีเซ้นท์งานผมตามปกติแต่ผมเหลือบมองสาวคนนึงในห้องประชุมนั้น จะว่าสาวก็ไม่เชิงเพราะเธอดูมีอายุพอควร จนผมพรีเซ้นท์งานของผมจบก็กลับมานั่งที่โต๊ะ แต่ตาผมก็ยังเหลือบมองเธอคนนั้น เธอไว้ผมสั้น ผิวขาวหมวย ผอมบาง ใส่เชิ๊ตด้านในและสูททับกะโปรงยาวถึงเข่า ผมแอบมองเธอในใจก็คิดว่าเธอใส่ชั้นในแบบไหนอยู่นะ เป็นลูกไม้ไหม หรือซีทรู จะใสจีสตริง ก็คงไม่เพราะเธอดูมีอายุพอสมควรคงจะไม่แรงขนาดนั้น หลังจากวันนั้นผมก็เก็บเธอไปฝันบ่อยๆ คิดอยู่ว่าจะได้พบเธออีกไหมเพราะเธอถูกชะตาผมมากๆ จน 3 วันต่อมาทาง บริษัททางนู้นแจ้งว่าผมได้รับงานจากทางบริษัทนั้น ผมแทบจะลิงโลดเลยครับ ไม่ใช่ดีใจที่ได้งานแต่ดีใจที่จะได้พบเธอคนนั้นอีก และก็ถึงวันนัดประชุมเราก็ประชุมกันเพื่อวางแผนงานกันแต่ผมกับไม่เห็นเธอเลย(เศร้าใจนิดๆ)แต่ผมก็ยังคงทำหน้าที่ต่อไป ผ่านไป 1 อาทิตย์หลังจากเริ่มงานผมก็มีปัญหาเรื่องงานในบางส่วนจึงปรึกษากับผู้ว่าจ้างตามปกติ ผู้ว่าจ้างบอกว่าเดี๋ยวจะนัด คุณธารทิพย์ มาเพื่อให้ผมคุยปัญหาส่วนนี้ว่าจะแก้ยังไงเพราะ คุณธารทิพย์ เธอดูเรื่องนี้ ผมก็ งง สิครับว่าคุณธารทิพย์นี่ใคร เช้าวันต่อมาขณะที่ผมทำงานอยู่ในพื้นที่ที่กำลังปรับปรุง ผมมองเห็นสาวคนนึงเดินลงจากรถ ผมจำได้ทันทีว่าเธอคนนั้นนั่นเอง (ผมยิ้มแก้มปริทันที) เธอมาในชุดกางเกงขายาวด้านในป็นเสื้อเชิ้ตสูทคลุมทับ มองจากชุดที่เธอใส่แล้ว เธอไม่ใช่คนจะมีอะไรให้ลุ้น เพราะแทบจะไม่มีส่วนโค้งเว้าใดๆ หุ่นเธอผอมๆบางๆ สูงสัก 170 ซมได้ ผมเห็นเธอหันไปคุยเหมือนสอบถามหาใครกับ ลูกน้องผม ลูกน้องผมก็ชี้มาทางผม เดินก็เดินตรงรี่เข้ามาหาผมแล้วมาหยุดตรงหน้า ผมเดาว่าเธออายุมากกว่าผมแน่นอน เลยยกมือไหว้เธอผม : สวัสดีครับทิพย์ : สวัสดี ค่ะฉัน ธารทิพย์ เห็นทางบอสแจ้งว่าคุณมีปัญหาหลายจุดมีอะไรให้ฉันช่วยไหมค่ะ (หน้าตาเธอเคร่งขรึมมากจนผมเสียความมั่นใจเลยครับผม : เอ่อครับก็มีหลายจุดครับ เชิญไปคุยในห้องดีกว่าครับ ผมเดินพาเธอไปที่ห้องทำงานที่ผมทำไว้ชั่วคราวแล้วเราก็นั่งคุยกันเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้ผมรู้ว่าเธอเรียนจบ สถาปัตย์ มาประสบการณ์เธอสูงมาก เรานั่งคุยกันหลายชั่วโมง เธอไม่มีทีท่าจะยิ้มเลยมีแต่หน้าตาเคร่งขรึมตลอด จนผมประหม่า เวลาผ่านเลยมาจนเที่ยงกว่า เราก็เครียร์งานกันเสร็จผมเลยเอ่ยปากชวนเธอกินข้าวผม : คุณธารทิพย์ ครับเที่ยงกว่าแล้วไปทานข้าวด้วยกันไหมครับ ผมพูดแบบยิ้มๆทิพย์ : ไม่ล่ะค่ะดิฉันมีงานต้องไปทำต่อไม่มีเวลาเท่าไรค่ะ เธอพูดแบบหน้าตาเคร่งขึมเหมือนเดิมทำเอาผมหน้าเจื่อนไปเลยและเธอก็ขับรถออกไป มันทำให้ผมเซ็งไปเลยครับไม่คิดว่าจะเจอแบบตัดเยื่อใยขนาดนี้ผมกับคุณ ธารทิพย์ เจอกันเรื่องงานอาทิตย์ ละ 2 ครั้งเราร่วมงานกันมาได้ 2 เดือนเธอก็ยังคงเหมือนเดิม ยังคงเคร่งขรึมเหมือนเดิม ไม่มีรอยยิ้มและไม่มีท่าทีจะเล่นด้วย จนผมถอดใจไปแล้วครับ แต่ผมก็ยังแอบเหล่มองเธอทุกครั้งเพราะเธอดูบุคลิกดีมาก วางตัวดี แต่งตัวถือว่าเนียบ มาอยู่วันหนึ่งวันอาทิตย์พอดีว่า พลอย ภรรยาผมต้องไปงานต่างจังหวัดกับคุณแม่เขา ไม่สะดวกจะพาลูกสาวไปด้วย ก็เลยปล่อยไว้ให้อยู่กับผม ส่วนน้องกิ๊กก็ไม่อยู่ไปหาญาติที่ใต้ เหลือผมกับลูกสาวสองคน ผมเลยพามานั่งเล่นที่ทำงานด้วย ลูกสาวผมก็นั่งเล่นอะไรไปเรื่อยตามภาษาเด็ก ในออฟฟิศชั่วคราวที่หน้างานผม ราวๆ 10 โมงกว่าๆ ขณะที่ผมนั่งทำงานอยู่ในห้องก็มีคนเปิดประตูเข้ามา ผมเลยหน้าดูก็ต้องตกใจคุณ ธารทิพย์ เปิดประตูเข้ามาในออฟฟิศทิพย์ : อ้าว คุณ...มาทำงานด้วยหรือค่ะวันนี้วันหยุดนะผม : ครับสวัสดีครับ คุณ ธารทิพย์ เอ่อ พอดีว่ามีงานค้างอยู่นิดหน่อยเลยอยากมาเร่งทำให้เสร็จ ครับ แล้วเอ่อคุณ ธารทิพย์ มีอะไรหรือเปล่าครับถึงมาที่หน้างานวันหยุดแบบนี้ทิพย์ : ป่าวค่ะ ไม่มีอะไร เพียงแต่ขับรถผ่านมาเลยแวะมาดู และเห็นไฟในห้องเปิดอยู่ก็เลยลองเปิดเข้ามาดู อุ้ยนั่นลูกสาวหรือค่ะ (เธอเหลือบไปเห็นลูกสาวผมนั่งเล่นอยู่) เธอเดินไปนั่งคุกเข่าตรงหน้าลูกสาวผม ผมเลยบอกให้ลูกสาวผมสวัสดีลูกสาว : สวัสดีค่ะทิพย์ : สวัสดีค่ะ หนูชื่ออะไรจ๊ะลูกสาว : เพชร ค่าทิพย์ : เงยหน้าหันมาทางผมขมวดคิ้ว ทำไมลูกสาวตั้งชื่อเพชรล่ะ เหมือนผู้ชายเลยผม : อ๋อ ....แม่เขาชื่อพลอย อ่ะครับ เลยตั้งว่าเพชร เหมือนเพชร ก่ะ พลอย ครับทิพย์ : อืมๆๆๆ แปลกดีนะ แล้วเธอก็หันไปเล่นกับลูกสาวผมพักใหญ่ ดูเธอมีความสุขคุยสนุกกับลูกสาวผม ผ่านไปได้สัก 10 นาที เธอก็ลุกขึ้นหันมาบอกผม เอ่อ,,ดิฉันไม่รบกวนเวลาคุณดีกว่า..เดี๋ยวดิฉันจะไปธุระต่อขอตัวก่อนนะคะ แล้วเธอก็หันไปโบกมือบ้ายบายลูกสาวผม ลูกสาวผมก็ บ้ายบายตอบ เธอเปิดประตูห้องออกไป แล้วก็หันกลับมาบอกผม คุณมีลูกสาวน่ารักจังนะค่ะ หน้าเหมือนพ่อเปี๊ยบเลย แล้วเธอก็ยิ้มแล้วก็หันหลังปิดประตู ผมดีใจแทบตัวลอยเป็นครั้งแรกที่เธอยิ้มให้ผม ตั้งแต่ร่วมงานกันมามันทำให้หัวใจผมพองโต อีกครั้งหลังจากวันนั้นมาเราร่วมงานกันดีขึ้น เธอยิ้มให้ผมมากขึ้นเราเริ่มจะสนิทมากขึ้น เพราะผมมีนางฟ้าตัวน้อยเป็นสื่อกลางให้ (ลูกสาวผม) เธอจะถามถึงลูกสาวผมบ่อยๆ เธอมีความรู้มาก ว่าเด็กวัยนี้จะเป็นแบบนี้แบบนั้น จนทำให้ผมรู้ว่าเธอมีลูกแล้ว 2 คน เป็นลูกสาวทั้งคู่มันคงทำให้เธอคิดถึงลูกสาววัยเด็ก เพราะลูกสาวคนโตของเธอ อายุ 18 แล้ว คนเล็ก 16 ปี เรียนอยู่ โรงเรียนประจำ ส่วนตัวเธอนั้น อายุ 44 แล้ว ไม่น่าเชื่อเธอยังสวยดูดีอยู่เลย เธอห่างกับผมร่วม 10 ปี ผมยังนึกว่าเธอห่างกับผมสัก 2-3 ปี สามีพี่ทิพย์เสียไปนานแล้วประมาณ 8-9 ปีจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ผมได้ยินจากที่เขาบอกกัน หลังๆเราเริ่มคุ้นเคยกันมากขึ้น จนผมเรียกเธอว่า พี่ทิพย์เฉยๆได้ เธอก็จะเรียกตัวเองว่า ทิพย์ เฉยๆ เราร่วมงานผ่านกันมาได้ 5 เดือน งานผมก็เสร็จส่งมอบงานได้ และมีการเลี้ยงฉลองกัน ที่ร้านอาหาร ก็กินดื่มตามปกติ จนงานเลิกก็แยกย้ายกันกลับวันนั้นฝนตกหนักมาก ก่อนกลับผมก็บอกพี่ทิพย์ ด้วยความเป็นห่วงว่าให้ขับรถดีๆนะครับ เธอก็ยิ้มให้ผมแล้วบอกว่าเช่นกัน เราก็แยกย้ายกัน ผมขับรถไปได้สัก 15 นาทีพี่ทิพย์ก็โทรมาหาผมว่ารถมีปัญหาเครื่องดับ อยากให้ผมไปดูให้หน่อย ผมก็กลับรถขับรถไปหา เห็นรถพี่ทิพย์จอดอยู่ริมทางเลยเข้าไปดูให้ ผมยืนเปิดฝากะโปรงหน้ารถพยายามหาสาเหตุ ฝนก็ตกหนักเปียกไปทั้งตัว พี่ทิพย์ก็มายืนข้างๆจนเปียกไปทั้งตัวเช่นกัน ผมเลยบอกว่าจนปัญญาสงสัยต้องให้รถลากไปอู่ เธอก็พยักหน้า ผมเลยติดต่อเพื่อนที่ทำอู่อยู่มาลากรถไปให้ แล้วผมก็ไปส่งพี่ทิพย์เอง ขณะขับรถไปก็ปืดแอร์เพราะเห็นพี่ทิพย์นั่งสั่นตลอดทางผม : พี่ทิพย์ พักเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนไหม อพาร์เม้นท์ น้องสาวผมอยู่แถวนี้ไม่ไกลเท่าไร กว่าจะถึงบ้านพี่ก็อีกไกลเดี๋ยวจะไม่สบายซะก่อนทิพย์ : จะดีหรือ ไปรบกวนน้องสาวเราป่าวผม : ไม่หรอกเขาไป ตจว ไม่อยู่แต่ผมมีกุญแจทิพย์ : หันหน้ามามองผม ขมวดคิ้ว ไม่มีคนอยู่พี่จะไปยังไงไม่ดีหรอกผม : พี่ทิพย์ เชื่อใจผมเถอะ ผมจะไปทำอะไรพี่ล่ะ ผมเป็นคนแบบนั้นหรือทิพย์ : นั่งคิดอยู่พักนึง ก็ได้ แต่อย่าคิดจะทำอะไรไม่ดีนะมีเรื่องแน่ ผมนั่งหัวเราะแล้วหันไปบอก พี่อ่ะบ้าไปแล้ว คิดมากพอถึงห้องพักห้องที่ว่านี้คือห้องที่ผมกับน้องกิ๊กเปิดไว้ร่วมกัน พี่ทิพย์ดูกลัวๆ แต่ผมก็ไม่ได้แสดงท่าทางอะไรมากเพราะยังไม่ได้คิดอะไรขนาดนั้น ผมก็ส่งผ้าเช็ดตัวให้ พี่ทิพย์ แล้วหาชุดลำลองของกิ๊กให้พี่ทิพย์เปลี่ยนในห้องน้ำ สักพักพี่ทิพย์ก็ออกมาจากห้องน้ำ แล้วผมก็เข้าห้องน้ำอาบน้ำ/เปลี่ยนชุดผมที่มีอยู่แล้วในห้อง (ขณะที่ผมอาบน้ำอยู่ผมก็คอยเงี่ยหูฟังว่าพี่ทิพย์ทำอะไรอยู่ข้างนอก เสียงเหมือนพี่ทิพย์เดินไปมาแล้วก็มีเสียงเปิดตู้เสื้อผ้า ผมก็ลุ้นอยู่ว่าพี่ทิพย์จะเห็นชุดของน้องกิ๊กไหมเพราะน้องกิ๊กซื้อมาใส่ร่วมรักกับผมเยอะมาก) แล้วผมก็ขับรถไปส่งพี่ทิพย์ที่บ้าน ขณะขับรถไปผมก็แอบมองเรียวขาที่ขาวของพี่ทิพย์ในกางเกงขาสั้น เสื้อยืด เผยให้เห็นสัดส่วน ได้ในระดับนึง หน้าอกสัก 32 เอวสัก 23-24 สะโพกสัก 34 แทบไม่น่าเชื่อว่ามีลูกแล้ว 2 คน พอส่งเธอถึงบ้านเธอก็ขอบคุณผม แล้วยิ้มให้ส่งท้าย แต่เป็นรอยยิ้มที่ไม่เหมือนเก่าผมบอกไม่ถูกบอกได้ว่าเป็นรอยยิ้มที่ดีมากๆหลังจากนั้นผมก็ได้ร่วมงานกับพี่ทิพย์อีก เพราะผู้ใหญ่ให้งานมาอีกเลยทำให้เราพบกันอีกและยิ่งสนิทกันมากขึ้น มีถูกเนื้อถูกตัวกันบ้างแต่ไม่ได้เกินเลย จนมาวันหนึ่งขณะที่ผมมาที่หน้างานแต่เช้าและทำงานอยู่ในห้อง พี่ทิพย์ก็โทรหาผมทิพย์ : สวัสดีค่ะ นี่คุณวันนี้ว่างไหม.....อยากให้ไปเป็นเพื่อนดูงานที่หัวหินสักหน่อยสะดวกไหมผม : เอ่อ....วันนี้ว่างครับงานไม่ติดอะไรแล้วจะไปกี่โมงครับ......แล้ว พี่ทิพย์ จะให้ผมไปเจอที่ไหนทิพย์ : ดีเลย ตอนนี้พี่ใกล้จะถึงแล้ว...เอ่อ........ออกมาเจอแถวหน้างานละกัน..อ่อ...เดินเลยมาไกลๆหน่อยนะเดี๋ยวจะมีคนเห็นพี่เบื่อคนนินทาผมก็รีบเก็บชองเดินออกไปรอพี่ทิพย์ ตามที่นัดหมายสักพักผมก็เห็นรถพี่ทิพย์วิ่งเรียบถนนมาจอด ผมก็ขึ้นไปนั่งด้านหน้า พี่ทิพย์ก็ขับรถออกพอนั่งในรถ สายตาผมเริ่มสแกนทันทีวันนี้พี่ทิพย์ ยังคงแต่งตัวเหมือนเดิมเป็นกางเกงผ้าขายาว ใส่เสื้อสีขาวน่าจะเป็นสายเดี่ยวและมีสูททับอีกที แต่ที่ผิดสังเกตคือวันนี้เธอปลดกะดุมเสื้อสูทเธอออกหมด ทำให้ผมมองเนินเนื้อที่หน้าอกกะเปาะเล็กๆ ดันเสื้อยืดออกมาตรงยอดแหลมเชียว ผมนึกในใจว่าพี่ทิพย์แกไม่ใส่บรามาหรือเปล่า เลยพยายามมองรอดคอเสื้อสูทก็มองเห็นสายบราสีชมพูเล็กๆตัดกับเนินใหล่ที่ขาวของพี่ทิพย์ ตอนนั้นผมคิดว่าบราสีชมพูต้องเป็นแบบซีทรูแน่ๆ เพราะยอดอกพี่ทิพย์นั้นดันเสื้อยืดขึ้นมาชัดทิพย์ : มองอะไรหรือคุณเห็นมองอยู่ได้ ไม่พูดไม่จา อะไรเลยตั้งแต่ขึ้นรถผม : เอ่อ....มองคนสวยครับพี่...วันนี้พี่ทิพย์ดูสวยเป็นพิเศษ (ผมแกล้งพูดยอแก้หน้าไปก่อน)ทิพย์ : อะไรกันมาชมคนแก่ ไม่ไปชมเด็กๆโน่น แห้งๆอย่างพี่นี่นะสวยอย่ามาเว่อเลย (เธอพูดไปหน้าแดงไป)ผม : แหมพี่ ผมพูดจริงๆ ตอนเจอพี่ครั้งแรกผมว่าพี่น่าจะสักสามสิบกลางๆ เลยนะทิพย์ : ปากหวานเป็นด้วยหรือ ตั้งแต่รู้จักมาเห็นทำแต่หน้าขรึมผม : โหพี่ ผมว่าพี่นั่นแหล่ะขรึมตลอด เล่นจนผมเกร็งเลยตอนเจอพี่แรกๆทิพย์ : 5555 อ้าวหรือสงสัยจะชินมั้ง หลายปีมานี่พี่เจอแต่คนมาทำตัวชีกอมาแทะเล็มตลอดทั้งๆที่ส่วนใหญ่ก็มีลูกเมียแล้วมันเลยทำให้พี่ต้องวางตัวแบบนั้นมั้ง บางคนนี่มาแบบว่าจีบเลย พี่ไม่ชอบถึงพี่จะอยู่คนเดียวก็จริงแต่ถ้าพี่ต้องเจอผู้ชายเจ้าชู้แบบนั้นล่ะก็ขอบายดีกว่า พี่เกรียจจริงๆ (เธอพูดซะผมตัวเกร็งเลยครับเพราะถ้าพี่ทิพย์รู้ว่าผมก็แอบมีกิ๊กเหมือนกันเธอคงรังเกรียจผมแน่)ผม : เจ้าประคุณขออย่าให้ผมโดนพี่เกรียจเลยยยยยย (ผมแกล้งทำเป็นยกมือไหว้)ทิพย์ : 5555 คุณก็เว่อไป คุณก็ไม่ได้มีทีท่าจะลามกชีกอสักหน่อย เห็นทำแต่งาน อย่างงี้อ่ะดีแล้วล่ะพี่ชอบคนแบบนี้นะ (ผมยิ้มขึ้นในใจทันทีเหมือนจะมีแสงสว่างนิด) พี่ทิพย์ขับรถไปก็ชวนผมคุยไปตลอดทางดูแล้วไม่เหมือนหลายเดือนก่อนตอนที่เจอแรกๆดูเธอสนุกสนานคุยเก่งเราคุยกันไปตลอดทางจนถึงที่หมาย พี่ทิพย์ก็ลงไปทำงานเครียร์งานตามปกติส่วนผมก็เดินเตร็ดเตร่อยู่แถวนั้น พอเที่ยงพี่ทิพย์ ก็เคลียร์งานเสร็จ ก็หาข้าวกินกันปกติ ช่วงบ่ายก็ขับรถกลับ กรุงเทพ โดยผมเป็นคนขับพี่ทิพย์ก็นั่งข้างหน้าปรับเบาะเอนนอนเล็กน้อย ตอนขับกลับเลยชะอำมานิดนึงพี่ทิพย์ ก็เอ่ยถามผมแปลกๆทิพย์ : น้องสาวเธอนี่คงเซ็กส์ซี่น่าดูนะผม : เอ่อ..ยังไงหรือครับพี่ทิพย์ (ผม งงๆ กับคำพูดเธอผมมีน้องสาวตอนไหนหว่า)ทิพย์ : ก็วันนั้นที่รถเสียแล้วไปเปลี่ยนชุดที่ห้องน้องสาวเธอไง พอดีอย่าว่าพี่นะพี่เห็นชุดในตู้.....อื้อหือ...ทั้งชุดทำงานและยังมีชุดแปลกๆอีกแถมชั้นในแต่ละตัวที่อยู่ในตู้ เอ็กส์ๆ ทั้งนั้นเลย !!!!!ผม : เอ่อ......หรือครับ (ผมเกือบหลุดพูดไปแล้วว่าไม่มีน้องสาวเพราะตอนนั้นอำไปว่าห้องน้อง) พี่ทิพย์....ชอบชุดแบบนี้หรือครับทิพย์ : อืม...พี่ไม่มีหรอกชุดแบบนั้น...อายเขาตายเลย...555.....ทำไมผู้ชายชอบให้ผู้หญิงใส่ชุดแบบนี้หรือ...หรือว่าเธอก็ชอบหือ....พี่ทิพย์พูดจบก็เงยหน้ามามองผมจ้องตาไม่กระพริบผม : พี่จะจ้องหน้าผมทำไมผมอายนะพี่...ทิพย์ : แล้วไงล่ะจะบอกได้ยังว่าทำไมผู้ชายชอบหรือที่ให้ผู้หญิงใส่ชุดแบบนั้นผม : อืมๆๆๆ ผมว่าผู้ชายคนไหนก็คงชอบมั้ง แต่ถ้าความรู้สึกผม อืมๆๆ ผมว่าผู้หญิงแต่งภายนอกไม่ต้องเซ็กส์ซี่แต่ให้ดูดีก็สวยแล้วครับแบบเอ่อ.....แบบ แต่งตัวแบบพี่ทิพย์ก็สวยดีครับ (ผมหยอดลูกหวานไปนิดนึง)ทิพย์ : บ้าแต่งตัวแบบพี่นี่นะ (ผมเหลือบไปมองดูเธอเห็นเธอหน้าแดงขึ้นมาเลย) พี่อ่ะแก่ก็แก่แต่งตัวแบบเชยๆอย่างพี่นะ สวยผม : ไม่นะพี่ ผมว่าพี่ดูดีออก ดูแล้วบุคลิกดี ไม่เชยหรอกครับอีกอย่างผมว่าผมชอบผู้หญิงที่สวยด้านในมากกว่าทิพย์ : พี่ไม่เข้าใจอ่ะว่าสวยด้านใน มันสวยแบบไหนหรือผม : 555 ถ้าผมพูดพี่อย่าว่าผมลามกนะ รับปากไหม (เธอพยักหน้ารับ) เอ่อผมว่าผมชอบผู้หญิงในชุดชั้นในแบบเซ็กส์ซี่มากกว่าครับ....(ลามก คิคิเธอเอ่ยขึ้นมาพร้อมหัวเราะ) อ้าวพี่ไหนรับปากแล้วไงล่ะ ลามกตรงไหน ผมว่ามันเป็นศิลปะบนเรือนร่างที่มีแต่ ผู้หญิงเท่านั้นที่ทำได้นะครับทิพย์ : จ้าๆ....คิลปะก็ศิลปะ....แหม แต่กับพี่คงไม่มีอะไรให้ดูเป็นศิลปะหรอก แก่ลัวยังไม่พอไม่มี ทรวดทรง องเอว หน้าอ่งหน้าอก ไปอวดใครเขาหรอกนะ เธอพูดแล้วทำหน้าเบือนหนีคงเพราะหน้าอกเธอเล็กมั้งผม : โถพี่...ผมว่าแบบพี่นี่แหล่ะดีแล้วหุ่นแบบพี่นี่สเป็คผมเลยนะ พี่เห็นพวกนางแบบระดับโลไหม ไม่มีหรอกอวบๆอกใหญ่ๆ มีแต่หุ่นแบบพี่ทั้งนั้น สวยสง่าดีทิพย์ : ไม่ต้องมายอกันหรอกจ้า.....(ดูเธอยิ้มหน้าแดงขึ้นมาเลย)....อย่างงี้แปลว่าแฟนเธอก็ต้องเซ็กส์ซี่ล่ะสิท่า 555 ใช่ม่ะคงต้องแต่งตัวใส่ชั้นในแบบที่เธอชอบแน่ๆ 555ผม : ไม่เลยครับพี่......แฟนผมเขาธรรมดาไม่มีเซ็กส์ซี่อะไรมากมายเท่าไรหรอกครับทิพย์ : อ้าวแล้วกัน....เก็บกดเลยล่ะสิ 5555 (ผมยิ้มๆคิดในใจยังผมก็มีน้องกิ๊กทดแทนเรื่องนี้อยู่แล้ว) แล้วอย่างงี้เธอทำไงล่ะ หือ....ผม : ก็ไม่ต้องทำอะไรนี่ครับก็พี่ถามว่าผมชอบแบบไหน ก็บอกให้ฟังเฉยๆ ถึงไม่ได้อย่างที่ฝันก็ชั่ง ว่าแต่ผมแล้วพี่ล่ะไม่เก็บกดบ้างหรือ 555 ที่ต้องอยู่คนเดียว (ผมพูดแบบเย้ยๆเธอไป)ทิพย์ : บอกตรงๆนะ ว่าหลายปีมานี่ตั้งแต่สามีพี่เสียไปก็เหงาๆเหมือนกัน แต่ยังดีที่มีงานเยอะเลยทำให้เลิกคิดไปได้บ้าง นี่เป็นเธอนะพี่ถึงบอกเพราะปกติพี่ก็ไม่คุยกับใครแบบนี้หรอก (ผมยิ้มในใจแบบมีลุ้นนิดๆ)ผม : แล้วพี่ไม่คิดที่จะมีรักใหม่หรือครับ หรือสนใจใครอื่นบ้างทิพย์ : ไม่รู้สิ พี่กลัวลูกๆจะรับไม่ได้ แต่ก็มีคนเข้ามานะ มาจีบบ้าง มาแทะโลมบ้าง แต่ก็มีแต่พวกเจ้าชู้ไก่แจ้ พี่ไม่ชอบเท่าไร อีกอย่างพี่ก็อายุมากแล้ว จะให้ไปเริ่มต้นใหม่คงไม่ไหว ก็ทำแต่งานนี่แหล่ะสนุกดีแล้วล่ะ แล้วเธอล่ะได้แอบไปกิ๊กกับใครบ้างไหมล่ะผม : จะไปกิ๊กก่ะใครล่ะครับ วันๆทำแต่งาน กลับบ้านก็เล่นกลับลูก ถ้าจะกิ๊กก็คงกิ๊กกับพี่นั่นแหล่ะ 555ทิพย์ : ทะลึ่ง...!!!! (แล้วเธอก็ทุบไหล่ผม) แล้วเราก็ขับรถกลับถึง กรุงเทพ แล้วก็แยกจากกัน ผมจะลงจากรถเพื่อสลับที่นั่งกับเธอให้เธอมาขับ เธอหันมาบอกผมว่า อาทิตย์หน้าไปเป็นเพื่อนเธออีกนะเธอไม่อยากขับรถทางไกลคนเดียว ผมก็พยักหน้ารับ เธอทิ้งท้ายก่อนขับรถออกไปว่า “ สักวันคงได้กิ๊กกันนะ 555” แล้วเธอก็ขับรถไป ทำให้ผมงงกับคำพูดเธอมากๆ แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก อาทิตย์ต่อมาก็เหมือนเดิมเธอขับรถมารับผมไปเป็นเพื่อนเหมือนเดิม แต่วันนั้นกว่าเธอจะเคลียร์ก็เย็นมาก ทำให้ถึงกรุงเทพก็มืด เธอเลยชวนผมกินข้าวผมก็ตกลงโอเค เธอชวนผมไปแถวทองหล่อเป็นร้านไม่ใหญ่ไม่พลุกพล่าน และเป็นมุมส่วนตัวดี เพราะเธอกลัวคนที่ทำงานจะเห็นเลยหาร้านแบบเงียบๆ เราสองคนนั่งกินข้าวตามปกติผมก็สั่งเบียร์มาดื่มซึ่งเป็นปกติของผมอยู่แล้ว แต่ที่ผิดแปลกไปคือวันนี้พี่ทิพย์ก็ดื่มเบียร์กับผมด้วย เธอชวนผมคุยสารพัดสนุกสนานจนเวลาเลยมาได้เกือบห้าทุ่ม พี่ทิพย์เธอมีอาการมึนๆแล้วแน่ๆเธอพูดผิดๆถูกๆแก้มแดงเป็นลูกมะเขือเลยเธอเลยชวนผมกลับ พี่ทิพย์ยื่นกุญแจรถให้ผมขับให้และพาเธอไปส่งที่บ้าน ผมขับรถพาเธอมาส่งถึงบ้านระหว่างทางพี่ทิพย์ก็ปรับเบาะรถเอนนอนหลับมาตลอดทางเพราะความเมา สายตาผมก็เหลือบมองสำรวจเรือนร่างพี่ทิพย์ไปตลอดทางพี่ทิพย์มีเรือนร่างที่ผมชอบมากคือผอมสูงหน้ามีหน้าอกเล็กน้อยเวลานอนลงแทบจะเหมือนไม่มี เธออยู่ในชุดกางเกงผ้าขายาวเสื้อสายเดี่ยวสีขาวมีสูทคลุมทับแต่ไม่ได้ปิดกะดุม ทำให้ผมไดมองเห็นความขาวเหนือเนินอก ที่ดันเสื้อขึ้นมาเล็กน้อย พอถึงบ้านผมก็ปลุกเธอเธอก็สะลึมสะลือขึ้นมามอง แล้วเปิดกะเป๋าหยิบกุญแจให้ผมช่วยเปิดบ้านให้ บ้านพี่ทิพย์เป็นบ้านเดี่ยวหลังไม่ใหญ่มากเธออยู่บ้านคนเดียว ลูกเธออยู่ รร ประจำอาทิตย์นึงจะกลับมาสักครั้งบางอาทิตย์ก็ไม่กลับมา ผมเอารถจอดเข้าที่แล้วก็เปิดปะตูบ้านปะคองพี่ทิพย์เข้าบ้านโดยที่ไฟในบ้านยังปิดอยู่ (เพราะผมหาสวิทส์ไฟไม่เจอ) ผมปะคองพี่ทิพย์ ไปนั่งบนโซฟาดูเธอยังมึนๆเมาๆอยู่ ผมเดินไปปิดล็อคประตูไม่ให้ยุงเข้า แล้วลงมานั่งข้างๆเธอผม : พี่ทิพย์เอาอะไรร้อนๆไหม เดี๋ยวผมไปหามาให้ แล้วเอ่อห้องครัวไปทางไหนครับพี่ทิพย์ : ไม่ต้องหรอกเดี๋ยวพี่จัดการเอง

 

ประสบการณ์เสียวสามคนผัวเมียอยู่อย่างนี้แหละดีแล้วมันส์ควยแมร่งทุกวัน, เรื่องเสียวสามคนผัวเมียอยู่อย่างนี้แหละดีแล้วมันส์ควยแมร่งทุกวัน ,เล่าเรื่องเสียวสามคนผัวเมียอยู่อย่างนี้แหละดีแล้วมันส์ควยแมร่งทุกวัน


 เรื่องเล่าจากทางบ้านสามคนผัวเมียอยู่อย่างนี้แหละดีแล้วมันส์ควยแมร่งทุกวัน

No comments:

Post a Comment