Thursday, July 4, 2013

ครูสาวโดนนักกีฬาลุม?

ประสบการณ์เสียวเรื่อง ครูสาวโดนนักกีฬาลุม? เล่าเรื่องเสียว


ดิฉันเพิ่งมีอายุครบ 25 ปี ไปเมื่อไม่กี่วันมานี้มีครอบครัวที่อบอุ่นพอสมควรตามสภาพของคนที่ใช้ชีวิตอยู่ต่างจังหวัดดิฉันแต่งงานอยู่กินกับสามีมาได้ 2 ปีแล้ว มีลูก 1 คน อายุ ขวบกว่าๆแกเป็นเด็กที่น่ารักมาก สามีของดิฉันก็เป็นคนดีมากเช่นกันเขามีอาชีพเป็นข้าราชการครูเช่นเดียวกับดิฉัน เราได้รู้จักกันตอนที่ดิฉันเพิ่งได้รับการบรรจุครูใหม่ๆที่โรงเรียนระดับมัธยมแห่งหนึ่งในตัวอำเภอ เขาสอนวิชาพละศึกษาส่วนดิฉันได้รับบรรจุตำแหน่งครูวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมต้นที่นี่ครูค่อนข้างขาดแคลนครูคนหนึ่งต้องสอนหลายคาบมากสอนทั้งวันทั้งแต่เช้ายันเย็น บางวันมีสอนถึง 7 คาบก็มี ดิฉันโตอยู่ที่กรุงเทพฯ แต่คุณแม่เป็นคนพื้นเพจังหวัดปราจีนบุรีก็เลยคิดอยากจะมาทำงานที่ใกล้บ้านคุณแม่ด้วยเวลาท่านเหงาหรือเจ็บป่วยจึงเลือกมาทำงานเป็นอยู่อยู่ที่จังหวัดนี้ แม้ว่าจะอยู่คนละอำเภอก็ตามดิฉันพักอยู่ในบ้านพักครูของโรงเรียนซึ่งอยู่หลังในสุดเนื่องจากเป็นครูใหม่ ปกติจะมีเพื่อนครูพักอยู่ด้วยกัน 3คน ดิฉันเป็นคนหน้าตาดีพอสมควร ผิวขาว สูงประมาณ 160 ซ.ม.ไว้ผมยาวรวบแบบสบายๆ ชอบแต่งกายแบบสบายทะมัดทะแมง ตอนที่ดินฉันมาอยู่ใหม่ๆเพื่อนครูด้วยกันยังถามเลยว่า “หน้าตาอย่างครูนิดนี่ไม่น่ามาเป็นครูบ้านนอกอย่างนี้เลยนะ...” ดิฉันก็ตอบว่า“ดิฉันชอบต่างจังหวัดอยู่แล้วอากาศดี สุขภาพจิตน่าจะดีด้วย...” เพื่อนครูเขาก็เตือนอยู่บ้างเหมือนกันว่า “เด็กนักเรียนที่นี่น่ะไม่เหมือนกับเด็กนักเรียนที่กรุงเทพฯ ไม่ค่อยสนใจเรียน ชอบหนีเที่ยวเดี๋ยวนี้ยิ่งมียาเสพติดมาระบาดต้องยิ่งระวังให้ดีเราจับมันไม่ค่อยได้หรอกเด็กพวกนี้มันหลบเก่ง แต่ก็จะมีแสบๆอยู่ไม่กี่กลุ่ม ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กโต แล้วก็ชอบลองของครูใหม่ใหม่ด้วย...”ดิฉันก็เตรียมตัวเตรียมใจไว้แล้วเหมือนกัน ว่าต้องเจอกับเหตุการณ์ทำนองนี้ตอนที่คุยกับเพื่อนๆ แต่ก็คิดว่าไม่น่ามีปัญหาปรับตัวให้เข้ากันสักพักก็จะอยู่ตัวได้เองแต่ก็ไม่คิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวดิฉันเองจะรุนแรงถึงขั้นนี้ดิฉันไม่เคยบอกแม้แต่เพื่อนครูที่อยู่บ้านพักเดียวกันหรือแม้กระทั่งสามีของดิฉันก็แค่เล่าว่าชอบโดนนักเรียนแกล้งแซวเฉยๆ ช่วงประมาณ 3-4 ปีที่แล้วตอนนั้นดิฉันเพิ่งได้รับการบรรจุเข้าทำงานเป็นครูที่นี่หลังจากจบใหม่ๆได้ไม่นาน ตอนนั้นรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่ เรียนจบเร็วแล้วก็ได้ทำงานเร็ว ช่วงแรกๆของการสอนก็ไม่ไม่อะไรมากเพราะดิฉันต้องปรับตัวกับการเรียนการสอนพอสมควรแทบไม่มีเวลาได้พักผ่อนหรือไปไหนเลยเดือนแรกของการทำงานดิฉันต้องคลุกตัวอยู่กับห้องเรียนเลิกเรียนก็อยู่ในห้องเตรียมการเรียนการสอนของวันถัดไปบางวันก็ถึงขนาดนอนหลับคาโต๊ะหนังสือเลยก็มี ช่วงเดือนแรกของการสอนที่นี่ดิฉันจะอยู่ที่โรงเรียนตลอดไม่ได้กลับบ้านเพราะกลัวจะเตรียมการเรียนการสอนไม่ทันส่วนเพื่อนครูคนอื่นที่เขาพักบ้านเดียวกับดิฉันพอวันศุกร์เย็นก็แยกย้ายกันกลับบ้านกัน ส่วนมากก็จะเหลือดิฉันอยู่เพียงคนเดียว วันนั้นเป็นวันศุกร์ ย่างเข้าเดือนที่ 2 ของการเป็นครูที่นี่แล้วล่ะดิฉันก็ทำงานเป็นปกติเหมือนทุกวันแต่ก็ดูจะเหนื่อยเป็นพิเศษอาจจะเป็นเพราะว่าเหนื่อยสะสมมาจากการที่ไม่ค่อยได้พักผ่อน พอกลับถึงบ้านก็เลยอาบน้ำอาบท่าให้สบายเนื้อสบายตัวแล้วก็เปลี่ยนชุดอยู่บ้านสบายๆ ใส่กระโปรงลำลองผ้าฝ้ายยาวประมาณเข่าได้เสื้อก็เป็นเสื้อยืดโปโลธรรมดา ปรากฏว่าพอแต่งตัวเสร็จกะว่าจะเข้าไปในตลาดตัวเมืองซื้อของตุนไว้เสียหน่อยกลับพลันนึกขึ้นได้ว่าลืมเอกสารการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ของชั้น ม.2ไว้ที่ห้องพักครูและก็จำได้ว่าดิฉันเป็นคนสุดท้ายที่ออกมาจากห้องพักครูแล้วก็ล๊อกประตูเรียบร้อยแล้ว หากจะเปิดเอาเข้าไปก็ต้องไปเรียกให้ภารโรงมาเปิดให้เวลาตอนนั้นก็ประมาณสัก เกือบๆ 6 โมงเย็นแล้วเห็นจะได้ท้องฟ้าก็เริ่มโพล้เพล้แล้ว ตอนนั้นก็รู้สึกกลัวอยู่เหมือนกันจึงเดินไปเรียกเพื่อนครูข้างบ้านให้ไปเป็นเพื่อน แต่ปรากฏว่าเขาไม่อยู่นึกขึ้นได้ว่าเขาไปธุระในเมืองตั้งแต่บ่ายแล้วก็เลยตัดสินใจเดินไปที่ตึกเองคิดว่าไม่น่ามีอะไรเพราะผู้คนก็กลับบ้านกันหมดแล้วห้องพักครูของดิฉันอยู่ชั้น 3ชั้นบนสุดของตึกแต่ต้องเดินอ้อมไปเอากุญแจที่บ้านภารโรงซึ่งอยู่ถัดไปเกือบหลังในสุดของถนนในโรงเรียนซึ่งรกครึ้มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ พอดิฉันเดินเลี้ยวพ้นมุมตึกผ่านกอดอกเข็มสีแดงสดก็ต้องสะดุงตกใจเมื่อเห็นเด็กนักเรียนกลุ่มหนึ่ง ประมาณ 3-4 คนคาดว่าน่าจะเป็นนักเรียนชั้น ม.6 นั่งซุ่มอยู่หลังกอต้นเข็ม เสียงหอบแฮกๆ...แฮกๆ เหมือนไปทำอะไรมาจนเหนื่อย แล้วก็ถอดเสื้อเหงื่อเต็มตัวเห็นแต่ใส่กางเกงฟุตบอลอยู่ เข้าใจว่าคงเป็นนักกีฬาของโรงเรียน เด็ก 2คนในกลุ่มนี้มีตัวใหญ่มากตอนเขายืนขึ้นตัวของดิฉันยังได้แค่บ่าของเขาเองอีก 2 คน ตัวใหญ่กว่าดิฉันเล็กน้อยกล้ามเนื้อที่เพิ่งผ่านการออกแรงมาเด่นนูนเป็นมัดๆพวกเขาทำให้ดิฉันตกใจมาก และเขาก็คงตกใจเหมือนกันที่บังเอิญพบดิฉันที่นี่ “พวกเธอมาทำอะไรอยู่ตรงนี้...” ดิฉันรีบถามด้วยอาการที่ยังคงตกใจอยู่ “เออ..ครับเออ..มาหลบ อู้ซ้อมวิ่งนะครับ...” เสียงเจ้าคนตัวใหญ่สุดในกลุ่มตอบด้วยน้ำเสียงที่ยังคงเหนื่อยหอบอยู่ “คืออย่างนี้ครับครูผมมาเข้าเก็บตัวเตรียมแข่งฟุตบอลโรงเรียนของจังหวัดน่ะครับ พอดีจริงๆเขาเริ่มเก็บตัวกันวันพรุ่งนี้ แต่พวกผมบ้านอยู่ไกลเลยขี้เกียจกลับก็เลยขออาจารย์สมมาตร แกค้างก่อน 1 วัน...” อีกคนหนึ่งพูดขึ้น “แล้วครูจะไปไหนหรือครับ...” คนตัวใหญ่สุดถามขึ้นอีก “จะไปขอกุญแจภารโรง เปิดห้องพักครูหน่อย พอดีลืมเอกสารการสอนไว้...” ดิฉันตอบไปแล้วก็เดินจากไปยังบ้านพักภารโรง เมื่อดิฉันไปถึงบ้านพักภารโรง ก็ต้องตกใจอีกครั้งหนึ่ง เมื่อเห็นบ้านปิดอยู่แต่ที่หน้าบ้านมีรองเท้าถอดวางอยู่หลายคู่ ดิฉันจึงค่อยๆเดินขึ้นไปบนระเบียงหน้าบ้านเพราะกลัวจะเสียมารยาทพอมองไปที่เก้าอี้หน้าระเบียงเห็นหนังสือ 2-3 เล่มวางอยู่หน้าปกหนังสือขึ้นหัวว่า ลับเฉพาะเปิดบริสุทธ์แดนอาทิตย์อุทัย ตอนนั้นดิฉันนึกอย่างไรก็ไม่ทราบแทนที่จะรีบทำเรื่องให้เสร็จเรียบร้อยกลับเดินเข้าไปหยิบหนังสือนั้นมาเปิดพลิกดูด้านใน ดิฉันถึงกลับตะลึงเลยเพราะข้างในมีแต่รูปโป๊ ที่มีแต่การเสพสังวาสกันหลายท่าหลายทางบางทีก็คู่เดียวบางทีก็หลายคู่แถมบางคู่เห็นฝ่ายผู้ชายเอาท่อนเนื้อของตัวเองเข้าไปยัดตรงรูก้นของผู้หญิงมีภาพน้ำกามของผู้ชายพวยพุ่งออกมาจากลำกล้องขนาดมหึมาพุ่งใส่หน้าฝ่ายหญิงตอนนั้นดิฉันฉันเกิดความรู้สึกเจ็บเสียวแปล๊บในท้องน้อยขึ้นมาทันทีดิฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดขึ้นมาได้อย่างไรหรือว่านี่ที่ตำราหนังสือเขาเรียกกันว่าความต้องการทางเพศ ดิฉันรีบสลัดความคิดเหล่านี้ออกไปในบัดดลแล้วก็รีบวางหนังสือเล่มดังกล่าวลงไว้ที่เดิมแล้วก็กะว่าจะเดินไปเคาะประตูเรียกแค่ยกมือขึ้นจะเคาะประตูพลันก็ได้ยินเสียงเหมือนผู้หญิงร้องครวญครางเบาๆทำให้มือดิฉันต้องหยุดชะงักลงกลางคันแล้วต้องตั้งใจฟังเสียงนั้นอีกทีว่าหูฝาดไปหรือเปล่า “ฮือ…ฮื่อ…อูย…พี่เชิดฉันจะไม่ไหวแล้ว ซอยอีกนิดพี่ ควยพี่กระทุ้งลึกดีจริงๆ” ดิฉันตั้งใจฟังจับสำเนียงนี้ได้ชัดเจนเลย มือไม้ตกวูบ ตกใจจนทำอะไรไม่ถูกนึกขึ้นใจเกิดอะไรขึ้นนี่ เขาทำอะไรทำไมฉันถึงได้รู้สึกกระอักกระอ่วนขึ้นมา รู้สึกตึงบริเวณหน้าขาของดิฉันดิฉันตกใจมาก ถอยหลังออกมาโดยอัตโนมัติขณะนั้นเองข้อศอกของดิฉันก็ไปถูกกระถางต้นไม้ที่ตั้งตรงหัวเสาบันใดระเบียงหล่นลงมาแตก เพล๊ง... หัวใจของดิฉันตกวูบจนแทบหยุดเต้น “ใครวะ...บังอาจมารบกวนความสุขของกู...”เสียงของนายเชิดภารโรงตะโกนออกมาด้วยความเกรี้ยวกราดพร้อมกับได้ยินเสียงโครมๆ เหมือนลุกลี้ลุกลนทำอะไรสักอย่าง “เดียวเถอะมึง...กูจะล่อให้น่วมเลย...” เสียงนายเชิงยังโหวกเหวกอยู่ข้างใน แต่เสียงแค่นี้ก็สามารถตรึงเท้าทั้งสองข้างของดิฉันให้อยู่กับที่ไม่สามารถขยับเขยื้อนไปไหนได้เลยเพราะฉันไม่เคยเผชิญกับเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อนเลยในชีวิต แอ๊ด...เสียงประตูเปิดออกมาพร้อมกับร่างอยู่สูงใหญ่ของนายเชิดยืนตระหง่านอยู่พอเขาเห็นดิฉันก็แสดงสีหน้าตกใจ หดตัวงอเล็กๆ อยู่ นุ่งผ้าคะม้าผืนเดียวเหมือนมีอะไรตุงๆ อยู่ในผ้าขาวม้ากลับเป็นดิฉันเองที่ออกอาการรู้สึกอายอย่างบอกไม่ถูก หน้าแดงตึงหูอื้อไปหมด ทำอะไรไม่ถูกเลย “เอ้า...อาจารย์แพรพรรณ นั่นเองมาทำอะไรที่นี่ครับ...” นายเชิดพูดออกสำเนียงดุๆ แต่ก็แฝงไว้ด้วยความละอาย “คือ...คือ...เออ...คือ...ฉะ...ฉะ...ฉันจะมาขอยืมกุญแจ...หะ...ห้องพักครูไปเปิดหยิบเอาเอกสารเตรียมการสอนหน่อยจ๊ะ...”ดิฉันตอบนายเชิดไปด้วยอาการประม่าไปหมด “ไม่เป็นไรครับอาจารย์...อาจารย์ไปรอข้างบนได้เลย เดี๋ยวผมไปเปิดให้ครับ...” นายเชิดบอกด้วยความเกรงใจ “เอ่อ...ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ...ฉันไปเปิดเองได้ เอาของแป๊ปเดียวล่ะเดี๋ยวมาคืนให้นายเชิดติดธุระอยู่ไม่ใช่หรือ...” พูดจบดิฉันก็นึกขึ้นได้ว่าคิดผิดที่พูดคำนั้นออกไป พอเงยหน้าสบตากับน้าเชิดเห็นเขายิ้มๆรู้เย็นวาบขึ้นมาทั้งตัวเลย “เอาอย่างนั้นก็ได้ครับ เดี๋ยวผมไปหยิบมาให้...”น้าเชิดหันหลังเปิดประตูเข้าไปข้างห้องแล้วก็เปิดอ้าไว้อย่างนั้นสายตาของดิฉันไม่สามารถหลบเลี่ยงทันมองเข้าไปเห็นเด็กสาวรุ่นคนหนึ่งนอนซุกตัวเหมือนหลับอยู่ใต้ผ้าห่มหันหลังให้ปากประตูตรงพื้นมีเสื้อผ้าของทั้งเด็กคนนั้นแล้วก็ของน้าเชิงเหวี่ยงเกลื่อกราดอยู่เหมือนพึ่งผ่านการต่อสู้กันมาอย่างดุเดือดเลือดพล่านดิฉันอายจนต้องก้มหน้าไว้ตลอดเวลา จนกระทั่งน้าเชิดเดินอาดๆ ส่งกุญแจให้พร้อมกับเสียงหัวเราะ ฮึ...ฮึ...อยู่ในลำคอ “เรียบร้อยแล้วครับอาจารย์แพรพรรณถ้าอาจารย์มาไม่เจอผมก็แขวนไว้บนตะปูข้างประตูนี้ก็ได้”พูดจบนายน้าเชิดก็เดินลงบันไดลิ่วไปทางหลังบ้านแต่ไม่ยอดปิดประตูลงเหมือนจงใจให้ดิฉันเห็นได้เต็มที่ส่วนดิฉันมึนงงกับเหตุการณ์นี้ไปหมดพอคว้ากุญแจได้ก็รีบเดินลิ่วไปยังตึกอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันได้สังเกตว่าเด็กนักเรียน 3-4คนดังกล่าวยังยืนอยู่ตรงกอต้นเข็มหรือไม่ ดิฉันต้องผ่านด่านลูกกรงบานเลื่อนชั้นที่ 1 ขึ้นไปแล้วเดินขึ้นไปชั้น 3ห้องพักครูอยู่สุดระเบียงตึกพอดีกว่าจะขึ้นมาถึงห้องพักครูบรรยากาศโดยรอบตัวก็มืดสลัวแล้วดิฉันรีบเปิดประตูเข้าไปเปิดไฟแล้วก็หยิบเอกสารที่ต้องการได้เรียบร้อยแล้วก็รีบปิดไฟปิดประตูค่อยๆ เดินมายังบันไดทางลงรู้สึกผ่อนคลายไปมากโขแล้วกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอดถึงภาพของน้าเชิดกับเด็กสาวคนนั้นไม่ได้ยังดีหน่อยที่ว่าโรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนชายล้วนเลยไม่น่าจะใช่เด็กในโรงเรียน ดิฉันเหลือบไปดูบรรยายกาศไกลๆออกไปเห็นแสงสุดท้ายของดวงอาทิตย์ที่กำลังลาลับขอบฟ้าช่างสวยเหลือเกิน ดิฉันปล่อยความคิดล่องล่อยเรื่อยเปื่อยมาจนกระทั่งเดินมาบันไดชั้นที่ 2ซึ่งอยู่ในช่วงลับตาคนพอดี ทันใดนั้นเองก็มีมือสาบๆยื่นมาจับก้นของดิฉันทางด้านหลังและอีกมือเหมือนจะจับมาที่ขอบกระโปรงและกระตุกขึ้นแต่ก็ทำไม่ได้ดิฉันตกใจมาก หันควับไปดู เห็นผู้ชายสองคนอยู่ที่ด้านหลังใส่หมวกไอ้โม่งทั้งคู่ กลิ่นสาบเหงื่อฉุนแตะจมูกจนเวียนหัวจากนั้นเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นรวดเร็วมากจนดิฉันไม่ทันได้ตั้งตัวเลย “คุณครูจะรีบไปไหนครับ...ทำไมถึงได้มาคนเดียวล่ะครับ...กลิ่นตัวของครูที่เพิ่งอาบเสร็จใหม่ๆ หอมจังครับ...หอมจนพวกผมทนกันไม่ไหวเลยครับ...”เสียงแหบๆ พ่นออกมาจากปากของไอ้โม่งที่ตัวใหญ่ ทำให้ดิฉันรู้ได้ในทันทีว่าเป็นเด็กนักเรียนที่เจอตรงกอต้นเข็มนั่นเอง แต่ตอนนี้มีแค่สองคน “นี่เธอ...” ไม่ทันที่จะได้พูดอะไร สองคนนั่นก็โถมเข้าตัวเข้ามาหาดิฉันคนตัวโตอ้อมมาด้านหลังเอามือขวาที่มีผ้าขนหนูหรือผ้าเช็ดหน้าก็ไม่ทราบมาปิดปากของดิฉันไว้ไม่ให้ส่งเสียงได้อีกมือหนึ่งก็อ้อมมารัดเอวของฉันไว้แน่นแต่ดิฉันก็ยังคงดิ้นสู้ต่อไปจนสุดฤทธิ์ “ได้ผล...” ดิฉันนึกในใจ พยามดิ้นต่อไปเพราะคิดว่าต้องรอดแน่นอนแต่เหตุการณ์กลับไม่เป็นเช่นนั้นไอ้เด็กอีกคนหนึ่งซึ่งรู้สึกว่าน่าจะเป็นหัวหน้า ที่คอยยืนคุมเชิงแต่แรกส่งเสียงเรียกเด็กนักเรียนที่แอบรมคุมเชิงอยู่ชั้นล่างขึ้นมาสมทบ “เฮ้ย...ไอ้แก้วไอ้บัติ...มึงสองคนจับแขนครูคนสวยคนละข้างยึดกับกำแพงไว้...”ไอ้คนตัวโตหัวหน้าออกคำสั่งอย่างเฉียบขาดขณะที่ไอ้คนตัวใหญ่สุดยังคงรัดแน่นอยู่ด้านหลัง ดิฉันทำอะไรไม่ถูกเลยขณะนั้น ร้องไม่ออก มีแต่น้ำตาเท่านั้นที่ไหลออกมาดิฉันดิ้นไปสักพักก็เริ่มอ่อนแรงไอ้ตัวใหญ่ได้โอกาสก็เลยหมุนตัวออกมาแล้วใช้ผ้าจับยัดใส่ปากดิฉันแทนอีกสองคนยกแขนดิฉันขึ้นไปขึงพรืดกับผนังไอ้คนตัวโตเปลี่ยนมาจับขาของดิฉันแทนแล้วตรึงชิดไว้กับพื้นแรงข้อมือของมันยังกับคีมเหล็กกดข้อเท้าของดิฉันไว้จนไม่สามารถมีแรงยกขึ้นได้ดิฉันพยายามร้องขอความช่วยเหลือแต่ก็มีแค่เพียงเสียงครืดๆ ในลำคอเท่านั้นไอ้หัวหน้ามันก็ตรงมาที่ตัวดิฉัน แล้วก็พูดกับอีกสามคนนั่นว่า “ให้กูเบิกร่องครูคนสวยคนนี้ก่อนนะ...แล้วพวกมึงค่อยตาม...” ว่าแล้วมันก็นั่งยองๆ ลงให้หน้าของมันอยู่ตรงเอวพอดี มันใช้มือของมันทั้งสองข้างรูดขึ้นไปตามเรียวขาวถลกกระโปรงขึ้นมาเหนือเอวเห็นเรียวขาขาวผ่องเป็นยองใยของดิฉัน ใบหน้?r />_________________ สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร

 

ประสบการณ์เสียวครูสาวโดนนักกีฬาลุม?, เรื่องเสียวครูสาวโดนนักกีฬาลุม? ,เล่าเรื่องเสียวครูสาวโดนนักกีฬาลุม?


 เรื่องเล่าจากทางบ้านครูสาวโดนนักกีฬาลุม?

No comments:

Post a Comment